อย่าได้มัวพูดพลามทำเพลงกันเลย ไปดูไปชมกันเลยเถอะครับ
ก็เริ่มต้นจากไปดูสภาพเรือจำลองที่ป้าผมฝากให้ไปดูหน่อย อาการไม่ร้ายแรงครับ ใบเรือหมายเลขสี่ของเสาหน้า เกือบไม่เหลือแล้วไปเหมือนกัน ที่สำคัญคือพวนบนของเสากระโดงต้นนี้หักนี่สิ
ใบเรือเสานอนเกือบหมดสภาพทั้งสามใบ แต่ก็ยังพอมองทรงใบออกอยู่บ้าง
เอากันให้ชัด ๆ ไปเลยอีกทีครับ ขาดจนเหลือแต่เชือกขึง ซะงั้นอะ
ใบหมายเลขสี่ ของเสาหน้าเกือบไม่เหลือแล้วเหมือนกัน
ใบหมายเลขห้าของเสากลางหน้า สภาพยังดีอยู่ถือว่าเอามาเป็นต้นแบบให้กับใบที่ขาดไปแล้วได้ดี
ใบหมายเลขหก ของเสากลางหลัง สภาพยังดีอยู่เหมือนกัน
ใบหมายเลขเจ็ด ของเสาหลัง สภาพยังดีอยู่เหมือนกัน สีแค่ซีดไปแล้วเท่านั้นเอง
มาดูกันอีกนิดหน่อยครับ เอ้า!!! เสาไม่เรียงเป็นแนวเดียวกันนี่
สองเสาหลังนี่ สภาพดีอยู่พอควรเลย
มาดูด้านหน้ากึ่งบนกันบ้าง... นั่นไงจริงด้วยครับ เสาไม่ได้เรียงเป็นแนวเดียวกันจริง ๆ ด้วยครับ
หลังจากดูอาการพร้อมสเก็ตซ์ภาพและวัดขนาดแล้ว เราก็มาตัดใบเรือชุดใหม่ไปแทนที่ของเดิมซะ
พร้อมรึยังครับพี่น้อง เซอร์วิสนอกพื้นที่ก็ต้องเตรียมเครื่องไม้เครื่องมือลงกล่องกันหน่อย
กล่องเครื่องมือผม คงไม่เล็กไม่ใหญ่ไปใช่ไหมครับ... 555555 ออกแบบเอง ทำเอง จากกระดาษล้วน ๆ
ตัดเชือกทั้งใบของเก่าทิ้งสิครับ แล้วชึงเสากระโดงใหม่ ผมเพิ่งสังเกตุว่าเสากระโดงนั้น ของเดิมใช้เหมือนเอากิ่งไม้มาเหลาให้ตรงอย่างนั้นแหละ
เชือกเส้นหลักขึงเสากระโดงให้ตั้งตรง เชือกเส้นรองช่วยขึงเสากระโดงไม่ให้เอียงซ้ายขวา
ใบของเสนนอน..เอ้า ทำงานครับ ทำงาน
ตอนขึ้นใบที่สี่ ผมยังไม่คุ้นชินกับการใส่ใบเรือกับรอกของเรือใบรุ่นนี้ ผมเล่นซะเชือกหย่อนเลยครับ ใบที่ห้า ใบที่หก ง่ายเลย
ใบหมายเลขที่เจ็ดกเรียบร้อยตามลำดับ
ใบที่สี่ขัดตาอย่างเห็นได้ชัด ตัดเชือกทิ้ง แต่งเสากระโดงใหม่ ใส่ใบใหม่อีกรอบ ก็เป็นอันว่าเรียบร้อย
ขอถ่ายมุมบนหน่อยเถอะนะ
มุมล่างด้วยสิ
มุมบนอีกทีเฮอะ
สุดท้ายแหละ ป้าบอกว่า "เอาวางไว้ที่หน้าบ้านก่อนเดี๋ยวค่อยเอาขึ้นไปเก็บ" ผมนี่ยิ้มเลย แต่ผมว่าป้าผมยิ้มมากกว่านะครับ