วันอังคารที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2556

Ship Scale Story 8 : The NRP Sagres III has review.

สวัสดียามค่ำคืนครับ เมื่อวานผมมานั่งเปิดคอมฯเล่น ว่าจะหาอะไรานั่งดูให้เพลินๆตา อย่าง Hang Over III ซะหน่อยก็ดันไปเห็น ไฟล์ภาพเรือ NRP Sagres III ที่ถ่ายเก็บเอาไว้เมื่อสามปีที่แล้วก็เห็นว่ายังน่าสนใจอยู่...วันนี้เลยเอามาลงให้ดูกันเล่นๆเช่นเคยครับผม...ว่าแล้วอย่าช้าเนอะ...

NRP Sagres III เป็นเรือสร้างจากเหล็ก มีสามเสากระโดงเรือสำเภากับใบเรือสี่เหลี่ยมบนเสากระโดงหน้าและหลักและสายระโยงยึดคานเอียงลาดบนเสากระโดงเรือบนเสาใบหลัง เสาหลักของเธอเพิ่มสูงขึ้น 42 เมตรเหนือดาดฟ้าเรือ เธอประกอบด้วย 22 ใบเรือ รวมทั้งสิ้นประมาณ 2,000 ตารางเมตร (21,000 ฟุต²) และสามารถเข้าถึงความเร็วสูงสุด 17 นอต (31 กิโลเมตร / ชั่วโมง) ภายใต้การแล่นเรือ เธอมีความยาว 89 เมตร (295 ฟุต) กว้าง 12 เมตร (40 ฟุต) ร่าง(สูง) 5.2 เมตร (17 ฟุต) และการเคลื่อนออกได้ที่เต็มอัตราบรรทุกที่1,755 ตัน

เรือสามเสากระโดงเปิดตัวภายใต้ชื่อ Albert Leo Schlageter เมื่อ 30 ตุลาคม 1937 ที่ Blohm & Vossในฮัมบูร์กสำหรับกองทัพเรือเยอรมัน (Kriegsmarine) เรือถูกตั้งชื่อตามชื่อ Albert Leo Schlageter ที่ถูกประหารชีวิตในปี 1923 โดยกองกำลังฝรั่งเศสครอบครองพื้นที่รูห์ร ผู้บัญชาการคนแรกของเธอคือ Bernhard Rogge มันจึงเป็นเรือน้องสาวของ Gorch Fock, Horst Wessel และการฝึกอบรมเรือชาวโรมาเนีย Mircea น้องสาวอีกลำหนึ่ง Herbert Norkus, ที่ยังสร้างไม่เสร็จในขณะนั้น ซึ่ง Gorch Fock ที่สองที่สร้างขึ้นในปี 1958 โดยชาวเยอรมันได้มาแทนที่เรือที่สูญหายไปหลังจากเกิดสงคราม

หลังจากที่จำนวนของการฝึกอบรมการเดินทางระหว่างประเทศ เรือได้ถูกนำมาใช้เป็นเรือสำนักงานเคลื่อนที่หลังจากการระบาดของสงครามโลกครั้งที่สองและถูกปล่อยลงสู่ทะเลมหาสมุทรเพื่อให้บริการเพียงอย่างเดียวอีกครั้งในปี 1944 ในทะเลบอลติก เมื่อ 14 พฤศจิกายน 1944 เธอถูกโจมตีด้วยทุ่นระเบิดโซเวียต ห่างออกไปจาก Sassnitz และต้องถูกลากจูงไปยังท่าเรือในSwinemünde ในที่สุดก็ถูกโอนไปยัง Flensburg เธอถูกเข้าควบคุมโดยเหล่าพันธมิตรเมื่อสงครามสิ้นสุดลงและในที่สุดก็ถูกยึดโดยสหรัฐอเมริกา

ในปี 1948 สหรัฐขายเธอให้กับบราซิลด้วยเครื่องหมายแสดงราคาที่ $ 5,000 USD. เธอถูกลากไปริโอเดจาเนโร, และบราซิล เธอแล่นออกไปที่โรงเรียนสำหรับกองทัพเรือบราซิลภายใต้ชื่อ Guanabara ในปี 1961, กองทัพเรือโปรตุเกส ซื้อเธอมาเพื่อแทนที่โรงเรียนเรือเก่า Sagres II (ซึ่งถูกย้ายไปฮัมบูร์ก เธออยู่ที่ไหนเธอก็เป็นพิพิธภัณฑ์เรือภายใต้ชื่อเดิมของเธอ Rickmer หรือ Rickmers) กองทัพเรือโปรตุเกสเปลี่ยนชื่อของเธอเป็น Sagres (ชื่อนั้นเป็นชื่อที่สาม) และเธอยังคงประจำการอยู่

ในปี 2010 เรือได้ดำเนินการในการเดินทางที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเธอ การเดินทางรอบโลกดำเนินการทั้งหมดโดยประมาณ 35000 ไมค์ ภายใต้คำสั่งของซีเอ็มจี Pedro Proenca Mendes เรือออกจากลิสบอนเมื่อ 19 มกราคมและมาถึง 24 ธันวาคมและมีส่วนร่วมใน Velas Sudamerica 2010, ทัวร์ประวัติศาสตร์ละตินอเมริกา โดยสิบเอ็ดเรือที่สง่างามเพื่อเฉลิมฉลองร้อยปีของรัฐบาลแห่งชาติเป็นครั้งแรกของอาร์เจนตินาและชิลี เธอยังเป็นส่วนหนึ่งของงานแสดงสินค้าที่เซี่ยงไฮ้ ท่ามกลางเหตุการณ์อื่น ๆ ระหว่างปีนั้นด้วย (และแน่นอนที่สุด นั่นหมายถึงการมาเยือนบ้านเราด้วยครับผม)

เรือได้แล่นไปภายใต้ธงโปรตุเกสตั้งแต่ปี 1962 สำหรับการละลึกถึงในปี 2012 นั่นถือว่าเป็นอนุสรณ์สำคัญในการครบรอบปีที่ 75 และเรือ 50 ปีภายใต้การให้บริการของกองทัพเรือโปรตุเกส

เรื่องย่อของเธอก็จบลงด้วยประการละฉะนี้...กลับมาเรื่องรูปถ่ายของเราดีกว่าครับ

ท้ายเรือเลยครับ...ชิดในครับพี่...อิอิอิ

เรือชูชีพครับ...ผมว่าทุกคนคุ้นตาอย่างแน่นอน

เอากันอีกซักมุมครับ...ว่าแต่พายกันเป็นมั้ยอะครับ

คราวนี้มาหัวเรือกันบ้างครับ

ขาดไม่ได้เลย เสากระโดงของพวกเรานั่นเอง

ที่นั่งด้านท้ายเรือครับ

ก่อนเดินไปถึงท้ายเรือ...กับห้องเล็กๆครับ

อารมย์ท้ายเรือกับพังงาครับ

เรือชูชีพที่อยู่ใกล้ห้องครัวครับ

โซ่สมรเรือกับพุกครับ

ปืนครับปืน...555

ป้ายชื่อเรือครับ

อันนี้ตรงกลางเรือเลยครับ...ถ้าไม่กาง ตอนกลางวันร้อนแน่ๆเลยอะ

เชือกเต็มเลย...ผมชอบตรงนี้มากเลยครับ

พื้นดาดฟ้าผมก็ชอบครับ

บันไดเพียบเลย

เชือกเต็มเลย..เอาไว้ดูประกอบกับตอนทำโมเดล

อันนี้เชือกกับรอกครับ...เก็บไว้เป็นตัวอย่างๆดีเลย

ตรงารเก็บใบเรือก็น่าสนใจนะ...ไม่รู้ว่าคิดเหมือนกันรึเปล่า...อิอิอิ

ทิ้งท้ายกับพังงากันอีกรอบครับผม

สุดท้ายของบทนี้แล้วครับผม...เกลี้ยง..ไม่มีกั